อุตสาหกรรมการแปรรูปไม้ยางพารา

ต้นยางพารา เมื่อถูกกรีดน้ำยางแล้ว เราเอาไปทำอะไร อ่านเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแปรรูไม้ยางพาราครับ

ไม้แปรรูปในบ้านเราที่นำมาทำเฟอร์นิเจอร์นั้น ในอดีตจะใช้ไม้สัก มะค่า เต็ง รัง แต่ปัจจุบันไม้เหล่านั้นแทบจะหมดไปจากประเทศ ปัจจุบันป่าไม้ในไทยเหลืออยู่เพียง 33% ของพื้นที่ประเทศไทยทั้งประเทศ (ราว 171,586 ตารางกิโลเมตร) ซึ่งน้อยมากหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา มีป่าไม้ราว 50% ของพื้นที่

พื้นที่ป่าที่ถูกทำลายก็กลายเป็น ไร่เลื่อนลอย ป่าต้นยางพารา ป่ายูคา สวนส้ม ฯลฯ แม้ว่าภาครัฐจะให้สนับสนุนให้เอกชนปลูกป่าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ทันต่อความต้องการไม้แปรรูปในประเทศ จนเราต้องนำเข้าไม้จากประเทศเพื่อนบ้าน

ในธุรกิจก่อสร้าง ก็พยายาม หาไม้มาทดแทนไม้สัก ไม้ยาง และ ไม้เนื้อแข็งต่างๆ และปัจจุบันก็มีการใช้ไม่จากต้นยางพารากันมากขึ้น เพราะยางพาราบางพันธุ์ มีความเหมาะสมต่อการทำเป็นไม้แปรรูป เพราะมี Texture ของเนื้อไม่มากพอควร (แม้ว่าพันธ์นั้นจะให้น้ำยาง น้อยกว่าพันธ์อื่น) เช่น BPM 1 (พัฒนา มาจาก VROS 163 กับ AVROS 308), ฉะเชิงเทรา 50 (พัฒนา มาจาก RRIC 110 ill)

พันธ์ที่เหมาะจะเอามาทำไม้แปรรูป

BPM 1 – ลำต้นกลม, ช่วงเป็นต้นอ่อนแต่กิ่งจำนวนมาก ใบเป็นพุ่ม ต่อมาเมื่อโจ จะทิ้งกิ่ง เหลือ 3-5 กิ่งใหญ่ในระดับสูง ทำให้ทรงพุ่มโปร่ง เหมาะจะเอามาทำไม้แปรรูป ปริมาตรไม้ในส่วนท่อนซุง 0.10 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น หรือ คำนวนคร่าวๆว่าต่อไร่จะให้เนื้อไม้ 7.12 ลูกบาศก์เมตร

ฉะเชิงเทรา 50 – ในช่วงยางอ่อน แตกกิ่งจำนวนมาก เมื่อโต ลำต้น กลม ตรง ทรงพุ่มใหญ่กว่า BPM 1 ใบมีรูปร่างป้อม สีเขียวเข้มปลายใบ ฉัตรใบเป็นรูปกรวย ปริมาตรไม้ในส่วนท่อนซุง 0.11 ลูกบาศก์เมตรต่อต้น 7.76 ลูกบาศก์เมตร

ซึ่งต้นยางเหล่านี้ ปลูกได้ในพื้นที่ทั่วไป

ผลิตภัณฑ์ไม้แปรรูปยางพารา

โดยทั่วไปยางพาราจะถูกแปรรูปไปเป็น เฟอร์นิเจอร์ไม้มากที่สุด รองลงมาก็เป็นเครื่องใช้ทำด้วยไม้ พื้นไม้ พวกปาร์เก้ รูปแกะสลัก และพวกเชื้อเพลิง ตามลำดับ

การส่งออกไม้ยางพาราแปรรูป

ปีที่แล้วประเทศไทยส่งออกไม้ยางพาราแปรรูป ราว 3 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นมูลค่า ราวสองหมื่นล้านบาทโดยโตราว 25% จากปีก่อน โดยตลาดหลักคือ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง จีน

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในปี 2556 อาจไม่ค่อยดีนักเนื่องจากวิกฤตการณ์และความไม่แน่นอนด้านเศษฐกิจของยุโรปและอเมริกา และผู้ประกอบการเริ่มนำไม้อื่นมาใช้แทน เช่นไม้โอ๊คจากอเมริกาใต้ เพราะมีคุณภาพดีกว่า แต่ราคาใกล้เคียงกัน